ตะกรุด-Takrud/Leathernecks

ความหมายและประวัติความของตะกรุด โดยทั่วไป ตะกรุด สร้างขึ้นจากแผ่นโลหะ มักจะทำจากตะกั่ว เงิน ทองแดง ทองเหลือง ใบลาน หรือแม้แต่หนังสัตว์ มีการจารหรือเขียนอักขระยันต์ลงไปในแผ่น โดยพระเกจิอาจารย์หรือ อาจารย์ผู้เรียนตำราทางด้านคาถาอาคม ทำการเขียนเลขยันต์เป็นอักขระหรือตัวหนังสือ โบราณมักจะเป็นภาษาขอม หรือตัวอักขระล้านนา หรือภาษาอื่นตามศาสตร์ของตำรา จากนั้นมาม้วนเข้าเป็นแท่งทรงกลม แล้วทำการปลุกเสกโดยพระ หรืออาจารย์ผู้มีคาถาอาคมเพื่อเกิดความศักดิ์สิทธิ์ 

ประวัติและความเป็นมาของการสร้างตะกรุดไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจน แต่เท่าที่ปรากฏเด่นชัด ตะกรุดถูกสร้างมาจากตำราหรือหนังสือคัมภีย์ทางด้านพระเวทย์ ที่ได้บันทึกถึงสูตรการลงยันต์บางสูตร ที่กำหนดให้เขียนลงบนแผ่นโลหะ มีกรรมวิธีการสร้างและคาถาที่ใช้ปลุกเสก ตลอดจนกรรมวิธีปลุกเสกที่ชัดเจน หรือแม้กระทั่งผลหรือพุทธคุณและวิธีการนำตะกรุดไปใช้ก็มีบันทึกไว้อย่างละเอียด ตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ได้มีพระเกจิอาจารย์ ได้สร้างตะกรุดขึ้นมากมาย มีชื่อแตกต่างกันไป และเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมมากอีกประเภทหนึ่ง

ตัวอย่างชื่อของตะกรุดต่างๆได้แก่

1. ตะกรุดมหารูด
2. ตะกรุดโสฬสมงคล
3. ตะกรุดมหาจักพรรดิ์
4. ตะกรุดสามกษัตริย์
5. ตะกรุดโทน
6. ตะกรุดมหาระงับ
7. ตะกรุดเมตตา

ตัวอย่างตะกรุดที่ได้รับความนิยมได้แก่ ตะกรุดมหาโสฬส มงคล หลวงปู่เอี่ยม, ตะกรุดสามห่วง หลวงพ่อเต๋, ตะกรุดหลวงพ่อเดิม, ตะกรุดหลวงพ่อปาน, ตะกรุดหลวงปู่ศุข , ตะกรุดโทน หลวงพ่อตัด,ตะกรุด ๙ อาถรรพณ์หลวงปู่ชื่น..ฯลฯ แทบจะถือได้ว่าถ้าพระเกจิอาจารย์ท่านไหนที่เป็นผู้ที่ำได้รับความเคารพศรัทธามาก หากสร้างตะกรุดขึ้นมาก็ได้รับความนิยมทั้งสิ้น

การบูชาตะกรุดในสมัยโบราณนิยมนำมาร้อยเชือกแล้วควั้นสาย เพื่อให้ผูกติดกับเอวหรือคอ มาในยุคปัจจุบันนิยมนำบรรจุหลอดมีห่วงสามารถแขวนเอว หรือใส่แขวนกับสร้อยได้ ตะกรุด เป็นเครื่องรางของขลัง ที่เป็นมรดกทางด้านความเชื่อความศรัทธาที่คู่กับสังคมไทยมาช้านานเป็นมรดกที่ลูกหลานควรได้ศึกษาอนุรักษ์ไว้

ตะกรุด ดีจากคณาจารย์ดังมีให้ชมและบูชาได้ที่ : หมวดตะกรุด

ตะกรุดของร้านที่แนะนำ

ตะกรุดหัวใจทศกัณฐ์ อุดผงวิเศษ ปลุกเสกโดยครูบาเดช

ราคาบูชา 350 (รวมค่าจัดส่ง EMS 410.-)

ทศกัณฐ์เป็นตัวละครในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ เป็นตัวเอกฝ่ายยักษ์ เป็นกษัตริย์ของยักษ์ ผู้มีสิบเศียร สิบกร มีฤิทธานุภาพมาก มีเดชอำนาจเป็นที่เกรงขาม และยังเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของยักษ์ ทศกัณฐ์เป็นผู้ฆ่าไม่ตายไม่มีศาสตราวุธใดๆที่จะทำอันตรายได้ เพราะได้ถอดหัวใจฝากไว้กับพระฤาษีผู้เป็นอาจารย์ ในบรรดาตัวละครของรามเกียรติ์ คณาจารย์โบราณผู้มีเวทย์อาคม ได้นำมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลังอาทิเช่น หนุมาน, พระลักษณ์, มัจฉานุ มีอิทธิคุณอำนาจแตกต่างกันไป แต่ทศกัณฑ์ หรือวิชาทศกัณฑ์ นั้นไม่ค่อยพบเห็น จึงเป็นโอกาศอันดีที่ได้มีการสร้างตะกรุดหัวใจทศกัณฐ์ขึ้น ตามตำราอย่างเข้มขลัง โดยตะกรุดจารอักขระคาถาหัวใจทศกัณฐ์ ที่มีอิทธิคุณอำนาจเป็นเลิศทางด้าน เสริมอำนาจวาสนาบารมี เป็นเมตตามหานิยม อย่างวิเศษ โดยได้รับความเมตตาปลุกเสกจาก ครูบาเดช สำนักสงฆ์ป่าช้ารัตนโกสินทร์ จ.ลำปาง และได้รับการปลุกเสกเพิ่มพลังโดยบารมีของอาจารย์สมราชฐ์ อย่างเข้มขลัง โดยตะกรุดอุดด้วยผงพุทธคุณวิเศษที่ได้รับมอบมาจากคณาจารย์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความขลังและพลังให้ตะกรุดมีความแรงยิ่งขึ้น

ตะกรุดหัวใจทศกัณฐ์นี้ บูชาเพื่อเสริมบารมีอำนาจ(ผู้คนยกย่อง และให้ความยำเกรง) เป็นเมตตามหานิยม(คนนิยมชมชอบ) และยังดีทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงอีก 

ตะกรุดหัวใจทศกัณฐ์ ความยาว 1 นิ้วบูข

คาถาบูชาตะกรุดหัวใจทศกัณฐ์ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ

ตามด้วย อิสวาสุ อุอะมะ (๗ จบ)

ตะกรุดพญาเสือ อุดหนังเสือและผงวิเศษ ปลุกเสก ๗ พิธี ๗ อาจารย์

ราคาบูชา 300 (รวมค่าส่ง EMS 360.-)

 เนื่องจากปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ หรือ “ปีขาล” ที่ผ่านมา สถานะการณ์ต่าง ๆ ส่อเค้าไปในทางรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งของสังคม ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แผ่ขยายไปทั่วโลก หรือปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ เช่นแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐเฮติ เกิดโศกนาศกรรม ผู้คนนับหมื่นนับแสน อดอยากหิวโหย เกิดความวิปริตแปรปรวนไปทั่วโลก ทางโหราศาสตร์ หรือพยากรณ์ศาสตร์ต่างวิเคราะห์ตรงกันว่าเกิดจากอาถรรพณ์ “ปีเสือดุ” 

ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์พยากรณ์หรือบรรดาซินแสหมอดูทั้งหลายต่างออกมาทำนายทายทักว่าปี “ปีขาล” หรือ “ปีเสือ” ตามความ เชื่อของชาวจีน ถือว่าเป็นปีที่ “ดุร้าย” ตามสัญชาตญาณของเสือ จะต้องไปกราบไหว้ “องค์ ไท้ส่วย” หรือ “ไท้ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง” เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งชาวจีนรู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” สามารถดลบันดาล และมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในแต่ละปี 

โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีชงควรไปไหว้ “องค์ไท้ส่วย” ประกอบด้วย ๑. ผู้ที่เกิดปีวอก (ลิง) ปีนี้จะชง (ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย และเป็นอริกับปีขาลโดยตรง ๒. ผู้ที่เกิดปีขาล (เสือ) ตรงกับปีทับไท้ส่วย ๓. ผู้ที่เกิดปีมะเส็ง (งูเล็ก) ถือว่าเป็นปีร่วมชง และ ๔. ผู้ที่เกิดปีกุน (หมู) ก็เป็นปีร่วมชง เช่นเดียวกัน

นั่นคือการแก้เคล็ดตามตำรับชาวจีนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล แต่ถ้าเป็นคนไทยมักนิยมไป “ทำบุญทำทาน” หรือ “สะเดาะเคราะห์” ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดต่าง ๆ ตามความเชื่อและความศรัทธาที่สืบทอดกันมา

ในโอกาสปี พ.ศ.๒๕๕๓ ซึ่งตรงกับปีขาลหรือปีเสือที่ผ่านมานี้มีการจัดสร้าง “ตะกรุดพญาเสือ มหาเมตตา มหาบารมี ตามฤกษ์ปีขึ้นเพื่อให้เป็นของดีให้ทุกคนได้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวตลอดปีเสือและปีต่อๆไป เป็นการแก้เคล็ด แก้ดวง ปัดเป่าเคราะห์ร้าย เสริมดวงชะตาราศี ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในทุกสรรพสิ่งที่ปรารถนา ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้ นำพาสู่ความสำเร็จทั้งการงานและการเงิน

ตะกรุดพญาเสือนี้สร้างขึ้นโดยนำแผ่นโลหะที่ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกมาแล้วหลายวาระ หลายพิธีจากบรรดาคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์ ให้อาจารย์ผู้มีวิชาอาคมจารอักขระยันต์หัวพญาเสือ เขียนอักขระ เรียกสูตร เรียกนามตามตำราจนเกิดความศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำแผ่นยันต์ทั้งหมดมาม้วนเข้าเป็นตะกรุด อุดด้วยผงพุทธคุณและมวลสารศักดิ์สิทธิ์ดังนี้ ๑.ผงพุทธคุณ ๑๐๘ จากคณาจารย์ผู้ทรงเวทย์ฯ ๒.ผงหัวใจพญาเสือ ๓.ผงหน้าฝากและผงกระดูกเสือ ๔.หนังเสือ “หนังพญาเสือโคร่ง” เพื่อเพิ่มความขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นทวีคูณ เนื่องจากเสือโคร่งนั้น มีตบะบารมีและอำนาจมากล้นในตัวเอง สัตว์น้อยใหญ่ต่างกลัวเกรงและหลีกทางให้เสือเสมอ จนได้รับการยกย่องเป็น “ราชันแห่งสัตว์ป่า” และ “เจ้าแห่งนักล่า” ตัวจริง ๖.น้ำมันพรายพญาเสือโคร่ง ๗.ผงว่านที่มีฤทธิ์ในตัว ถักรอบตะกรุดด้วยเชือกอย่างสวยงามตามตำรับการสร้างตะกรุดในสมัยโบราณ เสร็จแล้วนำตะกรุดทั้งหมดชุบด้วยน้ำมันว่านเสกผสมน้ำมันเสือนอนกิน เป็นอันว่าสำเร็จเสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้างตะกรุดพญาเสือฯนี้ 

พิธีกรรมปลุกเสกสุดเข้มขลังเพื่อให้เป็นยอดวัตถุมงคลพุทธคุณสูงโดยผนึกประสานพลังเวทย์อาคมจากคณาจารย์สายล้านนา และสายเขมร จัดพิธีกรรมปลุกเสกบรรจุพลังพุทธาคม 7 วาระ 7 พิธี โดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมฝ่ายเขมรหลายรูป และครูบาฯสายล้านนาหลายรูป และได้รับการปลุกเสกโดยอาจารย์สมราชฐ์จนบังเกิดอิทธิคุณอำนาจมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ยากที่จะมีวัตถุมงคลในยุคนี้ที่ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกขนาดนี้เพื่อให้แรงสมกับเป็นวัตถุมงคลในยุคที่ภาวะกระแสโลกแรง

พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกตะกรุดชุดนี้
-หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล วัดเกษตรสุข จ.พะเยา
-ครูบาเดช กิตติญาโณ สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านรัตนโกสินทร์ จ.ลำปาง
-ครูบาน้อย สิริวิชโย วัดบุญโยง จ.พะเยา
-หลวงปู่จัน ขันติโก กำปงธม กัมพูชา
-หลวงปู่น้อย ญาณฑีโป วัดป่าดอนประดู่ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร
-ครูบาอาจารย์สายล้านนาและสายอีสานอีกหลายรูป ...ฯลฯ
-อาจารย์สมราชฐ์ ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวปิดท้าย

ตะกรุดพญาเสือนี้ดีทางด้านเสริมบารมี ผู้คนเกรงใจ ผู้ใหญ่เอ็นดู ใครข่มเหงรังแกไม่ลง เสริมดวงชะตาราศี เสริมดวงให้แข็งเพราะขึ้นชื่อว่าเสือย่อมมีพลังอำนาจไม่อ่อนให้ใคร แก้อาถรรพณ์เคราะห์ร้าย ปัดเป่าทุกข์ภัย เป็นมหาอำนาจ เมตตามหานิยม โชคลาภดียิ่งนัก

ตะกรุดพญาเสือนี้ถือเป็นของดีของขลัง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าเช่าน่าบูชาในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่กระแสสังคมรุนแรงเช่นนี้

ตะกรุดยาว 1 นิ้ว ขนาดเล็กแขวนได้สะดวกทั้งสตรีและบุรุษเพศ ของดีราคาเบาๆแนะนำให้บูชา

คาถาบูชาตะกรุดพญาเสือ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ
อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ พุทธะสังมิ อิสวาสุ พยัคโฆ พยัคฆาสัญญา ลัพพะติ อิติ หึมหัมหึม
โอมนะมะพะยัคคะ พุทธะโคนาคม เทยยะวา เทยยะวา ปะเลยยะวา ปะเลยยะวา ภูมิภะวา พาชะเน เพชะนา มุขังปะวะรัง กะทายะ อะทายะฯ

ตะกรุดพญางูเหลือ อุดหนังงูเหลือมและผงวิเศษ ปลุกเสก ๗ พิธี ๗ เกจิฯ

ราคาบูชา 300.- (ราคารวมค่าจัดส่ง EMS 360.-)

งูเหลือมเป็นสัตว์ที่หากินได้สบายที่สุด คือนอนดักรอจนเหยื่อเข้ามาเองแล้วจึงจับกิน งูเหลือมกินสัตว์แทบทุกชนิดโดยมักดักซุ่มรอเหยื่อบนต้นไม้ เมื่อได้จังหวะจะทิ้งตัวลงมารัดเหยื่อ โดยไม่ต้องออกไล่ล่าเหมือนสัตว์อื่น หากเป็นพญางูเหลือมแล้วจะยิ่งกว่างูเหลือมธรรมดา สัตว์ต่างๆไม่ว่าเป็นสัตว์ใหญ่น้อยหากผ่านอาณาเขตของพญางูเหลือมแล้วจะเหมือนโดนคาถาต้องมนต์สะกดให้งงงวย จะเข้ามาให้กินถึงรังของพญางูเหลือมโดยไม่ขัดขืนต่อสู้ โดยพญางูเหลือมไม่ต้องออกไปล่าให้เหนื่อยแรง แม้แต่งูตัวเมียก็จะเลื้อยเข้ามาให้พญางูเหลือมผสมพันธ์อยู่ไม่ขาด ตำราโบราณคณาจารย์ผู้มีญานวิเศษเล็งประโยชน์จึงได้นำเอาอำนาจของพญางูเหลือมมาสร้างเป็นของขลังของดี โดยเฉพาะหนังของพญางูเหลือมเป็นของที่มีดีที่มีฤทธิ์อยู่ในตัว หากนำมาลงยันต์อักขระวิชาปลุกเสกด้วยมนต์คาถาให้ดีแล้วจะมีความขลังมาก ที่ผ่านมาคณาจารย์หลายท่านได้นำหนังงูเหลือมมาสร้างเป็นของขลังจนมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประจักษ์เลื่องลือ

อีกประการหนึ่งที่เกี่ยวกับพญางูเหลือม คือเกี่ยวกับเรื่องความรักคู่ครอง งูเป็นนิมิตความฝันสัญญาเกี่ยวกับเรื่องความรักคู่ครองที่ว่าหาว่า”หากหญิงชายใดฝันว่าถูกงูรัด นั่นแลจะประสบพบคู่ครอง” หลายคนคงจะมีประสบการณ์จริงมาแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแปลกแต่จริงอีกเรื่องหนึ่ง งูเหลือมยังเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของสิ่งลี้ลับอีกหลายประการในสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นเรื่องงูเหลือมเจ้าที่ หรือพญางูเหลือมเฝ้าทรัพย์

ตะกรุดพญางูเหลือมเจ้าทรัพย์เจ้าเสน่ห์นี้ จัดสร้างขึ้นอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์โดยอาจารย์ผู้ทรงเวทย์ได้นำแผ่นโลหะมาจารอักขระยันต์วิเศษ แล้วม้วนเข้าเป็นตะกรุดอุดด้วยหนังพญางูเหลือมเสก ปิดด้วยผงพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ ทำการเรียกสูตรเรียกนาม ปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์

พิธีกรรมปลุกเสกสุดเข้มขลังเพื่อให้เป็นยอดวัตถุมงคลพุทธคุณสูง ผนึกประสานพลังเวทย์อาคมจากคณาจารย์สายล้านนา และสายเขมร จัดพิธีกรรมปลุกเสกบรรจุพลังพุทธาคม 7 วาระ 7 พิธี โดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมฝ่ายเขมรหลายรูป และครูบาฯสายล้านนาหลายรูป และได้รับการปลุกเสกโดยอาจารย์สมราชฐ์จนบังเกิดอิทธิคุณอำนาจมีความศักดิ์สิทธิ์ ยากที่จะมีวัตถุมงคลในยุคนี้ที่ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกขนาดนี้เพื่อให้แรงสมกับเป็นวัตถุมงคลในยุคที่ภาวะกระแสโลกแรง

พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกตะกรุดชุดนี้
-หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล วัดเกษตรสุข จ.พะเยา
-ครูบาเดช กิตติญาโณ สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านรัตนโกสินทร์ จ.ลำปาง
-ครูบาน้อย สิริวิชโย วัดบุญโยง จ.พะเยา
-หลวงปู่จัน ขันติโก กำปงธม กัมพูชา
-หลวงปู่น้อย ญาณฑีโป วัดป่าดอนประดู่ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร
-ครูบาอาจารย์สายล้านนาและสายอีสานอีกหลายรูป ...ฯลฯ
-อาจารย์สมราชฐ์ ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวปิดท้าย

ตะกรุดพญางูเหลือมเจ้าทรัพย์ เจ้าเสน่ห์นี้บูชาไว้ จะทำให้ทำมาหากินสบาย คล่องตัวขึ้น มีโชคลาภเงินทองเข้ามาอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม คนชมชอบ บูชาติดตัวไว้ดียิ่งนัก 

สำหรับเป็นพ่อค้าแม่ค้า ควรมีบูชาไว้กับร้านดักคนดียิ่งนัก ธุรกิจขายตรง ที่ต้องการให้มีสมาชิกเยอะ เซลแมนขายสินค้า ต้องการทำยอดควรบูชาไว้

ตะกรุดยาว 1 นิ้ว ขนาดเล็กแขวนได้สะดวกทั้งสตรีและบุรุษเพศ ของดีราคาเบาๆแนะนำให้บูชา

คาถาบูชาตะกรุดพญางูเหลือม ตั้งนะโมฯ ๓ จบ ตามด้วย
ธะนังโภคัง ทุสะมะนิ ธะนังโภคัง ทุสะมะนิ อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ (๓ – ๙ จบ)